Search Results
7 items found for ""
- เมนูเส้นออร์แกนิกสำหรับเด็ก OC2U รุ่น for Kids จากเพจ Pearl Pearl Family
วันนี้ OC2U เอาใจเบบี๋ที่ชื่นชอบเส้นและคุณแม่ๆ ทั้งหลายด้วยการรวบรวมสูตรอาหารจากเพจแม่ๆ😍❤️💯ที่พวกเราแม่มือใหม่หัดทำอาการติดตามกันถ้าพูดชื่อไปต้องร้องออ 😊เมนูแต่ละทำตามได้ไม่ยาก มั่นใจว่าแม่ๆทำตามกันได้แน่นอนที่สำคัญจะต้องถูกใจเบบี๋จนแม่ๆอย่างเรายิ้มแก้วปริ เมนูที่ 1 : 📍ก๋วยเตี๋ยวหมูสับเส้นเล็กน้ำใส วัตถุดิบ ผงปรุงรสสำหรับเด็ก ซอสปรุงรสสำหรับเด็กช่วยเพิ่มรสชาติของอาหารผงปรุงรสสำหรับเด็ก6เดือนขึ้นไป เส้นฟักทองออร์แกนิค เส้นออร์แกนิค OC2U หมูสับ ลูกชิ้นหมู กะหล่ำปลี รากผักชี น้ำตาลออร์แกนิก วิธีทำ น้ำเส้นไปลวกไปมาณ 7-10 นาที น็อคน้ำเย็นและพักไว้ ตั้งน้ำให้เดือด ใส่รากผักชี และปรุงรสด้วยผงปรุงรสและซอสปรุงรสหม่ำหม่ำ จากนั้นใส่หมู ลูกชิ้น ผักลงไปต้มจนสุก หรือเปื่อยดี ตักเสริฟค่ะ
- เมนูเส้นออร์แกนิกสำหรับเด็ก OC2U รุ่น for Babies จากเพจ Jaosua's Happy Meal
🧡 OC2U เอาใจเบบี๋อายุ 7 เดือนขึ้นไปที่ชื่นชอบเส้นกับคุณเเม่ๆ ที่นึกไม่ออกว่าจะทำเมนูอะไรดีให้กับเบบี๋ทาน โดยรวบรวมเมนูยอดฮิตจากเพจดัง ทำง่าย วัตถุดิบไม่ยุ่งยาก เเต่รับรองความอร่อยเต็ม 10 กันเลยทีเดียว 🥰 เมนูที่ 1 : เนื้อย่างคุณหนู เมนูที่ 1 : 🌟🧡 เนื้อย่างคุณหนู 🧡🌟 วันนี้มีเมนูเนื้อย่างมาฝากคร๊าบ 🧑🍳 #เป็นสูตรนุ๊มนุ่มแสนอร่อย ทานคู่กับเส้นบะหมี่ออร์แกนิค 🥦 ทำง่ายมากๆไม่ยุ่งยากเลย วัตถุดิบ 🥩 เนื้อวัว 🥦 เส้นบะหมี่ออร์แกนิค OC2U Organic Care 2 You รุ่น for Babies รสบล็อคโคลี่ 🧉 ผงสามเกลอ 🍵 น้ำมันมะกอก 🏺 ซอสหมัก ผงปรุงรสสำหรับเด็ก6เดือนขึ้นไป 🧂 เกลือชมพู วิธีทำ เทส่วนผสมลงไปหมักเนื้อ ทิ้งไว้ข้ามคืน ต้มเส้นบะหมี่ออร์แกนิค ในน้ำเดือดจัด 3-4 นาที ตักขึ้น นำเนื้อที่หมักไปย่าง (ย่างบนกระทะธรรมดา) หันเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆ เสิร์ฟพร้อมเส้นบะหมี่
- เมนูเส้นออร์แกนิกสำหรับเด็ก OC2U รุ่น for Babies จากเพจ อป ที่รัก
OC2U Baby Noodle Menu by Or Por Teerak วันนี้ OC2U เอาใจเบบี๋ที่ชื่นชอบเส้นและคุณแม่ๆ ทั้งหลายด้วยการรวบรวมสูตรอาหารจากเพจแม่ๆ😍❤️💯ที่พวกเราแม่มือใหม่หัดทำอาการติดตามกันถ้าพูดชื่อไปต้องร้องออ 😊เมนูแต่ละทำตามได้ไม่ยาก มั่นใจว่าแม่ๆทำตามกันได้แน่นอนที่สำคัญจะต้องถูกใจเบบี๋จนแม่ๆอย่างเรายิ้มแก้มปริ เมนูที่ 1 : บะหมี่ผัดทรงเครื่อง เมนูที่ 2 : บะหมี่ผัดซอส เมนูที่ 3 : บะหมี่ซี่โครงหมูตุ๋น เมนูที่ 4 : ซุปไก่ตุ๋นยาจีน/บะหมี่ไก่ตุ๋นยาจีน เมนูที่ 5 : บะหมี่ไก่ซุปน้ำดำ เมนูที่ 1 : บะหมี่ผัดทรงเครื่อง 🌽🦞🥕🍜 📍สำหรับเด็ก 7 เดือนขึ้นไป เมนูเส้น เอาใจเด็กเบื่ออาหาร แม่หวานใช้เส้นบะหมี่ออร์แกนิค เส้นออร์แกนิค OC2U เส้นเหนียวนุ่มหอมอร่อย ไม่มีวัตถุกันเสีย ไม่ตัดต่อพันธุกรรม ปลอดภัยต่อลูก วัตถุดิบ เส้นบะหมี่ออร์แกนิค OC2U Organic Care 2 You รุ่น for Babies รสบล็อคโคลี่ 2 มัด กุ้งหั่นชิ้น 6 ตัว แครอทหั่นเต๋า มะเขือเทศหั่นชิ้นเล็ก เห็ดหอมสด เล็กน้อย กระเทียม 2 กลีบ ต้นหอม ซอสปรุงรส ผงปรุงรสสำหรับเด็ก6เดือนขึ้นไป 1.5 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ลวกเส้นบะหมี่ในน้ำเดือดจัด 3-5 นาที ตักขึ้น พักไว้ ตั้งกระทะ เจียวกระเทียมให้หอม ใส่ผักลงไปผัด ผัดสักครู่จนผักนิ่ม ใส่กุ้งลงไปปรุงรสด้วยซอสปรุงรส 1.5 ช้อนโต๊ะ ผัดให้เข้ากัน ใส่เส้นบะหมี่ลงไป ผัดให้เข้ากัน ยกลงแล้วโรยต้นหอม พร้อมเสิร์ฟ เมนูที่ 2 : บะหมี่ผัดซอส 🍝🥓🥩 📍สำหรับเด็ก 7 เดือนขึ้นไป ถ้าลูกเบื่อข้าวก็ต้องเปลี่ยนเป็นเมนูเส้น อป อยากกินผัดเส้นที่ขายตามร้านส้มตำเหมือนผู้ใหญ่ แม่หวานเลยทำให้กินค่ะ เมนูนี้ทำมาหลายวันแล้ววแต่ไม่ได้ลง แม่หวานใช้เส้นบะหมี่ออร์แกนิค เส้นออร์แกนิค เส้นออร์แกนิค OC2Uเส้นเหนียวนุ่มหอมอร่อย ไม่มีวัตถุกันเสีย ไม่ตัดต่อพันธุกรรม ปลอดภัยต่อลูก ใส่กุนเชียงไก่- ลิปดากินเพลิน ไม่มีผงชูรส ไม่มีดินประสิว มันน้อย อร่อย วัตถุดิบ เส้นบะหมี่ออร์แกนิค OC2U Organic Care 2 You รุ่น for Babies รสมะเขือเทศ 2 มัด กุนเชียง 2 ชิ้น ไข่ 2 ฟอง ต้นหอม ผักชี กระเทียม 2 กลีบ ต้นหอม ซอสปรุงรสผัดเอนกประสงค์สูตรปลาทูน่าญี่ปุ่น ซอสผัดและซอสปรุงรส สำหรับเด็ก 1 ปี ขึ้นไป 1.5 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ลวกเส้นบะหมี่ในน้ำเดือดจัด 3-4 นาที ตักขึ้น ใส่มะเขือเทศลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ ปรุงรสไข่ ครึ่งช้อนโต๊ะ นำไข่ไปทอดแล้วค่อยๆม้วน หั่นบางๆ พักไว้ ตั้งกระทะ เจียวกระเทียมให้หอม ใส่กุนเชียงลงไป กุนเชียงเปลี่ยนสีใส่เส้นลงไปผัด ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ ผัดให้เข้ากัน เสร็จแล้วโรยต้นหอม โรยไข่ พร้อมเสิร์ฟ เมนูที่ 3 : บะหมี่ซี่โครงหมูตุ๋น 🐷🐷🥬🥬 📍สำหรับเด็ก 7 เดือนขึ้นไป เมนูเส้นเอาใจเด็กเบื่ออาหาร เส้นบะหมี่ผักรสบร็อคโคลี่ เส้นออร์แกนิค OC2U เหนียวนุ่ม เคี้ยวง่าย อร่อย กินคู่กับกระดูกหมูตุ๋นนิ่มๆ หอมๆอร่อย ซดน้ำซุปอุ่นๆคล่องคอ วัตถุดิบ กระดูกหมู เส้นบะหมี่ออร์แกนิค OC2U Organic Care 2 You รุ่น for Babies รสบล็อคโคลี่ 1 มัด กวางตุ้ง หัวไชเท้า 4 ชิ้น ต้นหอม กระเทียม ผงปรุงรส ครึ่งช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 1.5 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ หมักกระดูกหมูด้วยผงปรุงรส ครึ่งช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส ครึ่งช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 1 ชั้วโมง ตั้งกระทะ น้ำมันร้อนใส่กระดูกหมูลงไปทอดจนเปลี่ยนสี ตักขึ้น เติมน้ำใส่หม้อ ทุบกระเทียมใส่หัวไชเท้าลงไป น้ำเดือดใส่กระดูกหมูลงไป ต้มด้วยไฟกลาง 40 นาที ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเดือดใส่ผักลงไปต้มจนผักยุบ ตักขึ้น พร้อมเสิร์ฟ เมนูที่ 4 : ซุปไก่ตุ๋นยาจีน/บะหมี่ไก่ตุ๋นยาจีน 🥙🍲🍗🥗 📍สำหรับเด็ก 7 เดือนขึ้นไป 📍สำหรับเด็กต่ำกว่าขวบแนะนำงดปรุงค่ะ เมนูบะหมี่ซุปไก่ตุ๋นยาจีน หอมเก๋ากี้ มีธาตุเหล็กสูง ป้องกันโลหิตจาง เอาใจเด็กเบื่ออาหาร เมนูเส้นอร่อย หรือจะกินซุปไก่คู่กับข้าวก็อร่อยเหมือนกันค่ะ แม่หวานใช้เส้นบะหมี่ออร์แกนิคแสนอร่อยของ เส้นออร์แกนิค OC2U เส้นเหนียว เคี้ยวง่าย หอมอร่อย วัตถุดิบ เส้นบะหมี่ออร์แกนิค OC2U Organic Care 2 You รุ่น for Babies รสออริจินัล 1 มัด ปีกบนไก่ 6 ชิ้น เครื่องตุ๋นยาจีน 1 ห่อ หัวไชเท้า แครอท เห็ดหอม กระเทียม ผักชี ซอสปรุงรสสูตรผัดกระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ ซอสเห็ดหอม 1.5 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ เติมน้ำ เปิดไฟกลาง ใส่กระเทียมทุบลงไป ตามด้วยเครื่องตุ๋นยาจีนและไก่ น้ำเดือดใส่หัวไชเท้าลงไป ถ้ามีฟองคอยตักฟองออก น้ำซุปจะได้ใส ต้มไปจนครบ 30 นาที ใส่แครอท เห็ดหอม ลงไป น้ำเดือดปรุงรสด้วยซอสปรุงรสสูตรผัดกระเทียมและซอสเห็ดหอม ต้มต่ออีก 10 นาที ใส่เม็ดเก๋ากี้ รอเดือดยกลง เส้นออร์แกนิค ต้มในน้ำเดือดจัด 5 นาที ตักขึ้นค่ะ เมนูที่ 5 : บะหมี่ไก่ซุปน้ำดำ 🍗 🍝🥓 📍สำหรับเด็ก 7 เดื่อนขึ้นไป ถ้าลูกเบื่อข้าวก็ต้องเปลี่ยนเป็นเมนูเส้น ต้มซุปน้ำดำ แม่หวานใช้เส้นบะหมี่ออร์แกนิค เส้นออร์แกนิค เส้นออร์แกนิค เส้นออร์แกนิค OC2U เส้นเหนียวนุ่มหอมอร่อย ไม่มีวัตถุกันเสีย ไม่ตัดต่อพันธุกรรม ปลอดภัยต่อลูก วัตถุดิบ เส้นบะหมี่ออร์แกนิค OC2U Organic Care 2 You รุ่น for Babies รสบล็อคโคลี่ 2 มัด ปีกบนไก่ 6 ชิ้น ต้นหอม ผักชี กวางตุ้งปลูกเอง กระเทียม 2 กลีบ เห็ดหอม น้ำซุปน้ำดำเข้มข้น วิธีทำ ลวกเส้นบะหมี่ในน้ำเดือดจัด 3-4 นาที ตักขึ้น พักไว้ เติมน้ำใส่หม้อเล็กน้อย ทุบกระเทียมใส่ ใส่น้ำซุปน้ำดำเข้มข้นลงไป น้ำเดือดใส่ไก่ ต้มจนครบ 40 นาที ใส่เห็ดหอม รอน้ำเดือดใส่ผักยกลง พร้อมเสิร์ฟ
- เมนูเส้นออร์แกนิกสำหรับเด็ก OC2U รุ่น for Kids จากเพจ อป ที่รัก
OC2U Kid Noodle Menu by Or Por Teerak วันนี้ OC2U เอาใจเบบี๋ที่ชื่นชอบเส้นและคุณแม่ๆ ทั้งหลายด้วยการรวบรวมสูตรอาหารจากเพจแม่ๆ😍❤️💯ที่พวกเราแม่มือใหม่หัดทำอาการติดตามกันถ้าพูดชื่อไปต้องร้องออ 😊เมนูแต่ละทำตามได้ไม่ยาก มั่นใจว่าแม่ๆทำตามกันได้แน่นอนที่สำคัญจะต้องถูกใจเบบี๋จนแม่ๆอย่างเรายิ้มแก้วปริ เมนูที่ 1 : สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ เมนูที่ 2 : สปาเก็ตตี้สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า เมนูที่ 3 : สปาเก็ตตี้ไส้กรอกเบบี๋ เมนูที่ 4 : บะหมี่ไก่เทอริยากิ เมนูที่ 5 : บะหมี่หมูสับข้าวโพดทรงเครื่อง เมนูที่ 1 : สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ 🍝🍕🍟🥪 📍สำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป เมนูเส้น เอาใจเด็กเบื่ออาหาร วัตถุดิบน้อยก็อร่อยได้ค่ะ เมนูนี้ อป ชอบมาก กินหมดจานเลยค่ะ แม่หวานใช้เส้นออร์แกนิค เส้นออร์แกนิค เส้นออร์แกนิค OC2U เส้นเหนียวนุ่มหอมอร่อย ไม่มีวัตถุกันเสีย ไม่ตัดต่อพันธุกรรม ปลอดภัยต่อลูก วัตถุดิบ เส้นออร์แกนิค OC2U Organic Care 2 You รุ่น for Kid รสฟักทอง 1 กำ หมูบด 1 ถ้วย มะเขือเทศหั่นชิ้นเล็ก ครึ่งลูก กระเทียม 1 กลีบ ซอสปรุงรสสูตรปลาทูน่าญี่ปุ่น Jinny ซอสผัดและซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ลวกเส้นในน้ำเดือดจัด 3-5 นาที ตักขึ้น พักไว้ ตั้งกระทะ เจียวกระเทียมให้หอม ใส่หมูลงไปผัดจนเปลี่ยนสี ปรุงรส ใส่ซอสมะเขือเทศลงไป ตามด้วยมะเขือเทศ ผัดให้เข้ากัน จนมะเขือเทศนิ่ม ยกลง พร้อมเสิร์ฟ . เมนูที่ 2 : สปาเก็ตตี้สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า 🍝🍕🍟🥪 📍สำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป เมนูเด็กกินเส้นค่ะ เอาใจเด็กเบื่ออาหาร สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าซอสไข่แดง รสชาติออกมันๆไม่เลี่ยน หอมเนย หอมชีส แม่หวานใช้เส้นออร์แกนิค เหนียวนุ่ม ไม่มีวัตถุกันเสีย ไม่ตัดต่อพันธุกรรม วัตถุดิบ เบคอน 4 แผ่น เส้นออร์แกนิค OC2U Organic Care 2 You รุ่น for Kid รสออริจินัล 1 มัด ไข่แดง 2 ฟอง ชีสแผ่น 1 แผ่น เกลือสีชมพู (เล็กน้อย) เนยจืด ออริกาโน วิธีทำ ลวกเส้นในน้ำเดือด 8 นาที ตักขึ้น พักไว้ ตอกไข่เอาเฉพาะไข่แดง หั่นชีสเป็นชิ้นเล็ก ใส่เกลือเล็กน้อย คนให้เข้ากัน ตั้งกระทะใส่เนยลงไป ตามด้วยเบคอน ทอดจนเปลี่ยนสี ใส่เส้นลงไป ตามด้วยซอสไข่แดง ผัดให้เข้ากัน ยกลง พร้อมเสิร์ฟ โรยด้วยออริกาโน เมนูที่ 3 : สปาเก็ตตี้ไส้กรอกเบบี๋ 🍝🍕🍗🌭 📍สำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป อป อยากกินเส้น อยากกินเมนูสปาเก็ตตี้ แม่หวานเลยทำให้กินมื้อเย็นค่ะ ใช้เส้นออร์แกนิค รสผักโขม จาก เส้นออร์แกนิค OC2U เส้นเหนียวนุ่ม ไม่ตัดต่อพันธุกรรม ไม่เจือปนวัสดุสังเคราะห์ ไม่ปรุงแต่งสีกลิ่นและรสชาติ มั่นใจว่าปลอดภัยและดีต่อลูกค่ะ กินคู่กับไส้กรอกเด็ก วัตถุดิบ เส้นออร์แกนิค 1 มัด OC2U Organic Care 2 You รุ่น for Kid รสผักโขม 1 มัด ไส้กรอกไก่ 4 ชิ้น บร็อคโคลี่ แครอทหั่นเต๋า เล็กน้อย ซีอิ๊วขาวลดโซเดียม 101 plus 1 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศ โซเดียมต่ำ ดอยคำ 1 ช้อนโต๊ะ เนยจืดเล็กน้อยกระเทียม 2 กลีบ น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ต้มเส้นในน้ำเดือดจัด 4 นาที ยกลง ตั้งกระทะ ใส่เนยลงไป เนยละลาย ใส่กระเทียมไปผัดจนหอม ใส่หมูบดลงไปผัด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวลดโซเดียมซอสมะเขือเทศโซเดียมต่ำ ผัดให้เข้ากัน แล้วใส่ไส้กรอกลงไป ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่บร็อคโคลี่ แครอทลงไป แล้วเติมน้ำ ผัดจนผักนิ่ม ใส่เส้นออร์แกนิคลงไปผัดให้เข้ากัน ยกลง พร้อมเสิร์ฟ เมนูที่ 4 : บะหมี่ไก่เทอริยากิ 🍗🥙🍲🍝 📍สำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป เมนูง่ายๆมื้อเช้าของเมื่อวาน เอาใจเด็กเบื่ออาหาร กินบะหมี่กับไก่นุ่มๆอร่อย แม่หวานใช้เส้นออร์แกนิค OC2U เส้นเหนียวนุ่ม ไม่เจือปนวัสดุสังเคราะห์ ไม่ปรุงแต่งสีกลิ่น ไม่มีวัตถุกันเสีย เมนูนี้กินทั้งครอบครัวค่ะ วัตถุดิบ สะโพกไก่ 2 ชิ้น เส้นออร์แกนิค OC2U Organic Care 2 You รุ่น for Kid รสออริจินัล 1 มัด ซอสเทอริยากิ 2 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรสเด็ก 2 ช้อนชา กระเทียม 3 กลีบ วิธีทำ ล้างทุกอย่างให้สะอาด พักไว้ เส้นออร์แกนิค ต้มในน้ำเดือดจัด 4 นาทีตักขึ้น หมักสะโพกไก่ด้วยกระเทียม ซอสเทอริยากิ ซอสปรุงรสเด็ก คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน นำเข้าหม้อทอดไร้น้ำมัน ให้สาวนหนังอยู่ข้างบน 180 องศา 15 นาที ครบเวลานำออกมากลั ด้านทาซอสที่เหลือให้ทั่ว นำเข้าหม้อทอด 180 องศา 10 นาที นำออกมา หั่นเป็นชิ้นเล็ก เสิร์ฟคู่กับเส้นและผัก โรยงาต้นหอม เมนูที่ 5 : บะหมี่หมูสับข้าวโพดทรงเครื่อง 🍄🌽🥕🍝🍲 📍สำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป เมนูเส้นอร่อยๆใส่ข้าวโพดหวานและเห็ดหอมสด หอมหวานธรรมชาติมากๆค่ะ เมนูนี้ใช้เวลาไม่นาน ง่ายมากๆค่ะ กินทั้งครอบครัว หมดเกลี้ยงจานอร่อยเลยค่ะ วัตถุดิบ หมูบด 1 ถ้วย เห็ดหอมสด 1 ถ้วย ข้าวโพดหวาน 1 ถ้วย แครอทหั่นเต๋า 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 2 กลีบต้นหอม ผักชี เส้นออร์แกนิค เส้นออร์แกนิค OC2U Organic Care 2 You รุ่น for Kid รสแครอท 1 มัด ซอสปรุงรส ผงปรุงรสสำหรับเด็ก6เดือนขึ้นไป 1.5 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ต้มเส้นในน้ำเดือดจัด 5 นาที เส้นนิ่มตักขึ้น เจียวกระเทียมให้หอม กระเทียมเปลี่ยนสีใส่หมูลงไปผัด ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส 1.5 ช้อนโต๊ะ ผัดให้เข้ากัน ใส่ข้าวโพดลงไป หลังจากนั้นใส่เห็ดหอม แครอทลงไปผัด ผัดให้เข้ากันจนเห็ดหอม แครอทนิ่มลง ใส่เส้นลงไปผัดโรยต้นหอม ตักขึ้น พร้อมเสิร์ฟ
- สาเกมีกี่แบบ การจัดประเภทสาเกญี่ปุ่น ตามความพรีเมียม และ รสชาติสาเก
รสชาติของสาเกนั้นส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับเกรดของสาเก และอีกส่วนนึงเป็นคาแรคแตอร์หรือสไตล์ของสาเกแต่ละตัว เราจะพาไปทำความเข้าใจกับการแบ่งประเภทสาเก (Sake Classification) ค่าSMV (Sake Meter Value) และค่าความเป็นกรด (Sake Acidity) เหล้าสาเก (Sake) นั้นถือว่าเป็นเครื่องดื่มประจำชาติของญี่ปุ่น มีประวัติความเป็นมายาวนานใช้ดื่มหลากหลายโอกาส ท้้งดื่มร่วมกับอาหาร ใช้เฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆและใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา สาเกจึงเป็นเครื่องดื่มที่มีความซับซ้อนและมีความหลากหลายมาก โดยเราสามารถจำแนกเหล้าสาเกได้ด้วยวิธีการตามหัวข้อต่อไปนี้ การแบ่งประเภทสาเก โดยสัดส่วนการขัดข้าว การแบ่งประเภทของสาเกด้วยการเติม/ไม่เติมแอลกอฮอล์ ประเภทสาเกแบบอื่นๆ สาเกนิโกริ สาเกสด และสปาร์กลิ้งสาเก การจำแนกรสชาติของสาเกด้วย SMV และ Acidity ประเภทของสาเก - Sake Classification โดยสากลจะแบ่งประเภทของสาเกด้วย 2 หัวข้อหลัก ได้แก่ สัดส่วนการขัดสีข้าว (Rice Polishing Ratio) และการเติมหรือไม่เติมแอลกอฮอล์สังเคราะห์หรือเหล้ากลั่น (Distilled Alcohol) ลงไปในสาเก สัดส่วนการขัดสีข้าว Rice Polishing Ratio / Seimai Buai โดยทั่วไปยิ่งมีการขัดข้าวออกไปมากยิ่งทำให้ได้สาเกที่ใสบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น (รสชาติจะมีความฟรุตตี้/ฟลอรัล (Fruity / Floral Aroma) โดยการขัดข้าวสามารถจำแนกสาเกออกเป็น 4 เกรดดังต่อไปนี้ สาเก ไดกินโจ Daiginjo Sake เป็นสาเกที่มีความพรีเมียมมากที่สุด ต้องมี Polishing Ratio อย่างน้อย 50% เหลือ 50% โดยส่วนมากนิยมดื่มเป็นสาเกเย็นเท่านั้น ตัวอย่างสาเก : Daiginjo Chobei , Junmai Daiginjo Judan Jikomi สาเก กินโจ Ginjo Sake เป็นสาเกที่มีความพรีเมียมรองลงมา ต้องมี Polishing Ratio อย่างน้อย 40% เหลือ 60% โดยส่วนมากนิยมดื่มเป็นสาเกเย็นเท่านั้น สาเก ฮอนโจโซ Honjozo Sake ถือเป็นสาเกที่มีคุณภาพ ต้องมี Polishing Ratio อย่างน้อย 30% เหลือ 70% สามารถดื่มได้ทั้งแบบสาเกร้อนและเย็น ตัวอย่างสาเก : Honjozo Karatamba สาเก ฟุตซึ Futsu Sake เมื่อแปลตรงตัวจะหมายถึงสาเกโดยทั่วไป ไม่จำเป็นต้องมี Polishing Ratio สามารถดื่มได้ทั้งแบบสาเกร้อนและเย็น ตัวอย่างสาเก : Ozeki Silver , Nomo Nomo , Takamasamune Kanbai จุนไม สาเก Junmai Sake (ไม่มีเติมแอลกอฮอล์สังเคราะห์ หรือเหล้ากลั่น) เนื่องจากในกระบวนการหมักเหล้าสาเกเป็นการเปลี่ยนแป้งจากข้าวให้ค่อยๆเกิดเป็นแอลกอฮอล์ ต้องใช้ทั้งเวลาและความพิถีพิถัน สาเกโดยส่วนมากจึงมักมีการเติมแอลกออฮอล์สังเคราะห์หรือเหล้ากลั่น (Distilled Alcohol) ลงไปเพื่อเร่งระยะเวลา หรือเพื่อปรับรสชาติให้ได้ตามต้องการ ส่วนคำว่า จุนไม Junmai หากแปลตรงตัวจะหมายถึง ข้าวแท้ๆ (Pure Rice) จึงหมายถึงสาเกที่ไม่เติมแอลกอฮอล์สังเคราะห์ แอลกอฮอล์ที่เกิดขึ้นได้มาจากการหมักข้าวเท่านั้น ตัวอย่างสาเก : Junmai Yamada Nishiki , Junmai Nigori Sake , Junmai Daiginjo Judan Jikomi โดยเมื่อนำวิธีการแบ่งสาเกจุนไมไปรวมกับการแบ่งเกรดสาเกตามการขัดสีข้าว เราจะสามารถจำแนกสาเกได้เป็น 7 ชนิด 1. สาเก จุนไม ไดกินโจ - Junmai Daiginjo Sake (50%) 2 สาเก ไดกินโจ - Daiginjo Sake (50%) 3. สาเก จุนไม กินโจ - Junmai Ginjo Sake (60%) 4. สาเก กินโจ Ginjo Sake (60%) 5. สาเก จุนไม - Junmai Sake (N/A - 70%) 6. สาเก ฮอนโจโซ - Honjozo Sake (70%) 7. สาเก ฟุตซึ - Futsu Sake (N/A) สาเกประเภทอื่นๆ นอกจากการแบ่งประเภทสาเกจากการขัดสีข้าวและการเติมแอลกอฮอล์แล้ว ยังมีสาเกกลุ่มพิเศษที่จำแนกตามความแตกต่างของกระบวนการหมักสาเก ทำให้มีคาแรคเตอร์ที่ต่างจากสาเกปกติทั่วไป โดยสาเกกลุ่มนี้ยังสามารถแบ่งตามประเภทการขัดสีข้าวหรือการเติมแอลกอฮอล์ร่วมด้วยก็ได้ เช่น Junmai Nigori Sake หรือ Ginjo Nama Sake เป็นต้น สาเกนิโกริ Nigori Sake เป็นสาเกที่มีเนื้อสัมผัสแบบครีม (Velvet / Creamy) โดยจะมีสีขาวออกครีมต่างจากสาเกโดยทั่วไปที่จะมีลักษณะใส โดยหลังจากขั้นตอนการคั้นสาเก (Sake Pressing) สาเกนิโกริ จะผ่านการกรองแบบหยาบ/ไม่ผ่านการกรอง (Unfitered) เพื่อคงเนื้อข้าวไว้ในสาเกไว้ เมื่อวางทิ้งอาจตกตะกอนโดยธรรมชาติ สาเกนิโกริ (Nigori Sake) ของประเทศญี่ปุ่น ถือว่ามีความคล้ายคลึงกับมักกอลลี (Makgeolli) ของประเทศเกาหลี นอกจากรูปลักษณ์สีขาวขุ่นทั้งสองยังเป็นเหล้าที่ทำจากข้าวเหมือนกัน แต่มีความต่างเล็กน้อยที่ตัวส่าเหล้า ของสาเกนิโกริจะใช้ "โคจิ" (Koji) ส่วนมักกอลลีจะใช้ "นูรัก" Nuruk โดยมักกอลลีจะมี %แอลกอฮอล์ต่ำกว่าเล็กน้อย โดยส่วนมากจะนิยมดื่มสาเกนิโกริในแบบเย็น จะเขย่าให้เนื้อสาเกนิโกริเสมอกันแล้วค่อยดื่ม หรือจะลองดื่มแบบแยกชั้นก็ได้ ตัวอย่างสาเก : Junmai Nigori One Cup สาเกสด Nama Sake ในกระบวนการหมักสาเกจะมีการพาสเจอร์ไรซ์อย่างน้อยสองครั้ง ครั้งที่1 หลังการกรอง และครั้งที่ 2 ก่อนการบรรจุขวด ส่วนสาเกสดจะเป็นการพาสเจอร์ไรซ์แบบพิเศษเพียงครั้งเดียวก่อนบรรจุขวดเท่านั้น ทำให้ได้รสชาติที่สดชื่นยิ่งขึ้น โดยส่วนมากจะนิยมดื่มสาเกสด หรือนามาสาเกในแบบเย็นเท่านั้น มักเสริฟใส่แก้วนามา แก้วใบเล็กสีใสคล้ายแก้วช็อต และนิยมทานคู่กับอาหารประเภทปลาดิบอย่างซูชิและซาชิมิ โดยเชื่อว่าจะทำให้ปลามีรสที่กลมกล่อมยิ่งขึ้น ตัวอย่างสาเก : Nama Chozo Sake , Karatamba Nama สปาร์กลิ้ง สาเก Sparkling Sake สปาร์กลิ้งสาเก เป็นสาเกที่มีความซ่าเบาๆ ถือว่าเป็นสาเกที่ดื่มง่ายเหมาะสำหรับผู้เริ่มดื่มสาเก เนื่องจากมีรสและความซ่าที่ใกล้เคียงแชมเปญ และโดยส่วนมากจะมีแอลกอฮอล์ 5-10% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าสาเกทั่วไป อีกทั้งมักจะมีการเติมรสผลไม้ทำให้สาเกมีกลิ่นรสที่หวานหอมสดชื่นยิ่งขึ้น โดยส่วนมากจะนิยมดื่มสปาร์กลิ้งสาเกในแบบเย็นเท่านั้น มักเสริฟใส่แก้วแชมเปญ ดื่มก่อนมื้ออาหารเพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร เป็น Aperitif หรือจะดื่มร่วมกับอาหารเมนูเบาๆก็ได้ ตัวอย่างสาเก : Hana Awaka Sparkling - Original , Hana Awaka Sparkling - Peach , Hana Awaka Sparkling - Yuzu , Hana Awaka Sparkling - Berry การจำแนกรสชาติสาเก การจำแนกรสชาติสาเกคล้ายกับไวน์ว่าสาเกตัวนั้นๆมีความดราย (Dry) หรือหวาน (Sweet) มีบอดี้ที่เบา (Light) หรือหนัก (Rich) โดยสาเกจะมีมาตรวัดที่เป็นที่นิยม คือ Sake Meter Value (SMV) หรือเรียกว่านิฮอนชูโดะ (Nihonshudo) และค่า Acidity หรือค่าความเป็นกรด ค่า Sake Meter Value (SMV) ค่า SMV ใช้วัดความดราย (Dry) ในภาษาญี่ปุ่นใช้คำว่าคาราคูชิ (辛口 – karakuchi) หรือความหวาน (Sweet) ในภาษาญี่ปุ่นใช้คำว่าอามาคูชิ (甘口 – amakuchi) ของสาเก ในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกค่านี้ว่านิฮอนชูโดะ nihonshu-do (日本酒度) โดยส่วนมากค่า Sake Meter Value จะอยู่ระหว่าง -15 ถึง +15 ซึ่งค่า 0 จะถือว่าเป็นค่ากลาง (Neutral) ยิ่งติดลบมากจะมีความหวานมาก ยิ่งค่าบวกมากยิ่งมีความดรายมาก ค่า Acidity นอกจาก Sake Meter Value ค่า Acidity หรือค่าความเป็นกรด ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สัมพันธ์กับความดรายหรือความหวานของสาเก เนื่องจากในเหล้าสาเกมีกรดแลคติค (Lactic Acid) ตามธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น สาเกที่มีค่า SMV+1 ถือว่าเป็นสาเกที่มีรสชาติกลางๆระหว่าง Dry และ Sweet แต่ถ้าสาเกนี้มี Lactic Acid มากสาเกตัวนี้ก็จะมีความดรายมากยิ่งขึ้น ค่า Acidity ของสาเกโดยส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง 1 - 2 สาเกมีที่ค่า Acidity สูงจะถือว่ามีความ Rich หรือ Full-bodied มากกว่า สาเกที่ค่า Acidity ต่ำจะถึงว่ามีความ Light หรือมีบอดี้ที่เบากว่า เมื่อนำทั้งค่า SMV และ Acidity มารวมกัน จะแบ่งรสชาติสาเกได้เป็น 4 แบบ Light & Sweet ส่วนมากเป็นสาเกที่มีความเบาและมีกลิ่นอโรม่าแนว Floral และ Fruity Light & Dry เป็นสาเกที่มีความเบาและคลีน (Clean & crips taste) Rich & Sweet ส่วนมากเป็นสาเกแนวฟรุตตี้ (Fruity) ที่มีบอดี้ (Full-bodied) Rich & Dry เป็นสาเกที่มีความดรายที่เข้มข้นและซับซ้อน อ้างอิง : sakehub, saketalk, sakenomism
- สาเกบอมบ์ (Sake Bomb) คืออะไร วิธีทำสาเกบอมบ์เป็นอย่างไร
สาเกบอมบ์ คือ เบียร์ค็อกเทล (Beer Cocktail) รูปแบบหนึ่ง มีรูปแบบการนำเสนอที่สร้างความสนุกสนาน ในขณะเดียวกันสามารถทำเองได้ง่ายๆโดยไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์สำหรับทำค็อกเทล สาเกบอมบ์เป็นการผสมผสานระหว่างสาเกกับเบียร์ญี่ปุ่น อาจเป็นทางเลือกหนึ่งหรือเป็นการเปิดประสบการณ์สำหรับผู้เริ่มต้นการดื่มสาเก หลายคนอาจคิดว่าต้นกำเนิดของสาเกบอมบ์มาจากประเทศญี่ปุ่น แต่จริงๆแล้วจุดเริ่มต้นของสาเกบอมบ์มาจากทหารอเมริกันที่เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่2 ในญี่ปุ่น ทำให้สาเกบอมบ์ค่อนข้างจะเป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกา คอนเซ็พท์ของสาเกบอมบ์คือการแข่งกันทำให้แก้วช็อตสาเก (Sake Shot) ตกลงในแก้วเบียร์ญี่ปุ่น โดยวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ใช้มีดังนี้ สาเก / เบียร์ญี่ปุ่น / แก้วสาเก หรือแก้วช็อต / แก้วเบียร์ / ตะเกียบ พร้อมแล้วไปดูวิธีทำสาเกบอมบ์กันเลย อิชิ...นิ...ซัง! Step #1 - เทเบียร์ญี่ปุ่น และสาเกใส่แก้วเตรียมไว้ เลือกแก้วเบียร์ที่กว้างพอให้แก้วสาเกตกลงไปได้ และระวังอย่าเทเบียร์เต็มแก้วจนเกินไป อย่าลืมเผื่อพื้นที่สำหรับแก้วสาเกและฟองที่จะกระเด็นขึ้นมา ขอแนะนำ เบียร์ญี่ปุ่นแท้ๆ จากโอกินาว่า Orion Beer สาเกสามารถเลือกใช้ได้ทั้งสาเกร้อน และสาเกเย็นตามชอบใจ ขอแนะนำ สาเกไซส์เล็ก 200 ml. One Cup Extra ขวดใหญ่ 1.8 L. Ozeki Silver และสาเกแบบกล่อง 2 ลิตร Nomo Nomo , Takamasamune Kanbai หรือถ้าอยากลองสาเกบอมบ์แนวฟิวชั่น สามารถเลือกช็อตเป็นสาเกผลไม้ เพื่อเพิ่มความหวานหอมได้ ขอแนะนำ สาเกผลไม้ Aya Sake รส Aya Peach , Aya Yuzu , Aya Grapefruit Step #2 - วางตะเกียบและแก้วสาเกลงบนแก้วเบียร์ วางตะเกียบบริเวณกลางแก้ว เว้นพื้นที่ระหว่างตะเกียบ 2 ข้างให้แคบกว่าก้นแก้วสาเกเล็กน้อย เพื่อให้แก้วสาเกสามารถวางอยู่บนตะเกียบได้โดยไม่ตกลงไปในทันที หลังจากนั้นวางแก้วสาเกลงไปที่ตะเกียบบริเวณกลางแก้ว Step #3 - พร้อมสนุกแล้ว นับ 123 แล้วทุบโต๊ะเลย เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าได้เวลาสนุกแล้ว โดยส่วนมากจะมีการนับ 1 2 3 เป็นภาษาญี่ปุ่น ก่อนที่จะเริ่มทุบโต๊ะ โดยจะทุบหรือเคาะแบบไหนก็ได้เพื่อให้แก้วสาเกหล่นลงไปในแก้วเบียร์ ตะโกนออกมาว่า "อิชิ...นิ...ซัง" "คัมปาย" หรือ "สาเก บอมบ์" Step #4 - ตู้ม! สาเกบอมบ์มาแล้ว เมื่อสาเกตกลงไปในแก้วเบียร์ จะเกิดฟองพร้อมการสแปลชหรือการกระฉอกของเบียร์ เป็นช็อตที่เหมาะแก่การถ่ายรูปหรือคลิปลงโซเชียล แล้วก็เอ็นจอยกับการดื่มสาเกบอมบ์กันได้เลย วิธีดื่มแบบอื่นๆ 4 สเต็ปที่ผ่านมา สามารถทำพร้อมกับเพื่อนๆหลายๆแก้วเพื่อความสนุกสนานได้ หรือถ้าดื่มสาเกบอมบ์คนเดียวอาจจะข้ามขั้นการวางตะเกียบแล้วหย่อนแก้วสาเกลงในแก้วเบียร์เลยก็ได้
- สาเก คืออะไร ทำจากอะไร ประวัติความเป็นมา กระบวนการทำ และราคาสาเก
สาเก Sake 酒 สุราประจำชาติญี่ปุ่น ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุด 'สาเก' เปรียบเสมือนไวน์ที่ทำจากข้าว (Rice Wine) เนื่องจากใช้กระบวนการหมักเช่นเดียวกับไวน์ แต่มีความแตกต่างสำคัญอยู่ที่วัตถุดิบหลักเพราะสาเกหมักจากข้าวญี่ปุ่น ในขณะที่ไวน์หมักจากองุ่น 'สาเก' บางครั้งจะถูกเรียกว่า 'นิฮอน ชู' (Nihon Shu) 'นิฮอน' หมายถึงญี่ปุ่น และ 'ชู' แปลว่าเหล้า จึงแปลได้ว่า 'เหล้าญี่ปุ่น' ทั้งสองคำสามารถใช้เรียกเหล้าญี่ปุ่นแบบรวมๆในคราวเดียว คล้ายกับในภาษาไทยที่ใช้คำว่า 'สุรา' หรือ 'เหล้า' เมื่อกล่าวถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในภาพรวม หัวข้อที่ 1 : ประวัติความเป็นมาของสาเกญี่ปุ่น หัวข้อที่ 2 : สาเกทำจากอะไร ต่างกับเหล้าอื่นอย่างไร หัวข้อที่ 3 : ความพิถีพิถันของสาเกญี่ปุ่น และ 3 หัวใจสำคัญ หัวข้อที่ 4 : สาเกแพงมั้ย ราคาเท่าไหร่ ประวัติความเป็นมาของสาเกญี่ปุ่น เริ่มต้นตั้ง 200 ปีก่อนคริสตกาล เวลานั้นญี่ปุ่นเริ่มรับวิธีการเพาะปลูกข้าวจากประเทศจีน จนกระทั่งราวคริสต์ศตวรรษที่ 3 จึงได้มีการบันทึกเรื่องสาเกไว้อย่างเป็นทางการ ในยุคนาระคริสต์ศตวรรษที่ 8 ในวังหลวงได้จัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อกำกับดูแลการผลิตสาเก โดยในช่วงแรกจะมีเพียงจักรพรรดิ ขุนนางชั้นสูง และผู้นำศาสนาเท่านั้น ซึ่งจากบันทึกประวัติศาสตร์พบว่าในวังจะนิยมดื่มสาเกแบบเย็นในฤดูร้อน ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 12-14 สาเกค่อยๆเผยแพร่ออกสู่ประชาชนนอกวัง อย่างไรก็ตามสาเกที่ชาวบ้านนิยมดื่มในสมัยนั้นจะมีลักษณะที่แตกต่างจากในวัง คือเป็นสาเกที่มีความขุ่น และนิยมดื่มแบบอุ่นๆ โดยดื่มเพื่อเฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆ เมื่อสาเกเป็นที่นิยมมากขึ้นในญี่ปุ่น ในปีคศ.1596 จึงเริ่มมีการผลิตขายเชิงพาณิชย์ โดยใช้วิธีแบ่งใส่ขวดขนาดเล็กที่เรียกว่า 'ทกคุริ' (Tokkuri) และใช้เทคนิคพาสเจอไรซ์ด้วยความร้อนเพื่อคงอายุของสาเก นับเป็นเวลา 300 ปีก่อนที่หลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur) จะค้นพบวิธีการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์โดยการนำมาต้มที่เรียกว่า พาลเจอร์ไรเซชัน (Pasteurization) สาเกทำจากอะไร? ต่างกับเหล้าอื่นๆยังไง? สาเกมีจุดต่างที่สำคัญ 2 อย่าง ได้แก่ กระบวนการทำให้เกิดแอลกอฮอล์ และวัตถุดิบที่ใช้ 1. กระบวนการทำให้เกิดแอลกอฮอล์ 'สาเก' ใช้วิธีการหมักจึงจัดอยู่ในกลุ่มสุราแช่(เหล้าหมัก) เช่นเดียวกับไวน์และเบียร์ โดยสุราแช่ส่วนมากจะมี%แอลกอฮอล์อยู่ที่ 5-16% แตกต่างกับเครื่องดื่มประเภทวิสกี้ วอดก้า และโชจู ที่จัดอยู่ในกลุ่มสุรากลั่นซึ่งมี%แอลกอฮอล์สูงถึง 25-40% สาเกแบบคลาสสิก (Traditional Sake) จะมีแอลกอฮอล์ประมาณ 13-16% และนิยมดื่มแบบเพียว (Neat หรือ Straight) โดยเลือกดื่มได้ทั้งแบบเย็นและแบบอุ่น แต่ในปัจจุบันสามารถนำสาเกไปประยุกต์เป็นค็อกเทล (Cocktail) หรือจับคู่กับเบียร์เพื่อใช้ทำสาเกบอมบ์ (Sake Bomb)ได้อีกด้วย สาเกสไตล์ประยุกต์ (Fusion Sake) จะมีแอลกอฮอล์ประมาณ 5-10% และนิยมดื่มแบบเพียว (Neat หรือ Straight) เช่นกัน แต่สาเกรูปแบบนี้นิยมดื่มแบบเย็นเท่านั้น โดยสาเกหลายตัวจะมาในรูปแบบสปาร์คลิ้ง (Sparkling Sake) ที่มีความคล้ายคลึงกับแชมเปญ หรือมีการผสมกับน้ำผลไม้เพื่อเสริมกลิ่นและรสชาติ อาทิเช่น สาเกพีช สาเกยูซุ เป็นต้น 2. ส่วนประกอบของสาเก นอกจากวัตถุดิบหลักอย่างข้าวญี่ปุ่น 'สาเก' ใช้ทั้งยีสต์ (Yeast) และหัวเชื้อโคจิ (Koji-mold) ในการหมักบ่ม ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญทำให้สาเกแต่ละตัวมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน ความพิถีพิถันของสาเกญี่ปุ่น และ 3 หัวใจสำคัญ สาเกนับเป็นเครื่องดื่มทรงคุณค่าของชาวญี่ปุ่น กระบวนการของการผลิตสาเกนั้นค่อนข้างมีความยุ่งยากซับซ้อน สาเกมาสเตอร์ชาวญี่ปุ่นที่เรียกว่า ‘โทจิ’ (Toji) ต้องสืบทอดเทคนิคกันมาหลายร้อยปี โดยหัวใจสำคัญของสาเกมี 3 อย่าง ได้แก่ ข้าว น้ำ และกระบวนการหมักบ่ม 1. ข้าว ข้าวญี่ปุ่นที่ใช้ทำสาเกเป็นข้าวกลุ่มสายพันธุ์เฉพาะที่เรียกว่า Sakamai 酒米 ที่จะมีลักษณะเมล็ดข้าวแตกต่างจากข้าวญี่ปุ่นที่ใช้ทานทั่วไป (Table Rice) ทั้งเม็ดใหญ่กว่าและเนื้อข้าวเยอะกว่าซึ่งแน่นอนว่าส่งผลต่อรสชาติของสาเก โดยพันธุ์ข้าวอันดับ 1 สำหรับการทำสาเก ได้แก่ พันธุ์ 'ยามาดะ นิชิกิ' (Yamada Nishiki - The King of Sake Rice) ที่มีเม็ดข้าวใหญ่เป็นพิเศษ ตัวอย่างสาเก เช่น Ozeki Junmai Yamada Nishiki และ Ozeki Honjozo Karatamba นอกจากพันธุ์ข้าวแล้วยังมีกระบวนการขัดสีข้าวเพื่อให้ได้ส่วนที่ลงตัวสุดสำหรับการทำสาเกแต่ละชนิด โดยข้าวแต่ละเมล็ดอาจถูกขัดออกไปมากกว่า 50% ซึ่งสามารถใช้จำแนกประเภทของสาเกได้ 4 เกรด Futsu-Shu ไม่กำหนด, Honjozo ขัดออก 30%, Ginjo ขัดออก 40%, และ Daiginjo ขัดออก 50% 2. น้ำ น้ำนับเป็นส่วนประกอบ 80% ของสาเกเลยทีเดียว อีกทั้งหลายขั้นตอนในการทำสาเกต้องใช้น้ำเป็นส่วนสำคัญ อาทิเช่น การล้างเมล็ดข้าว (Washing) การแช่เมล็ดข้าว (Soaking) การนึ่งข้าว (Steaming) การทำชูโบ (Shubo) และ การทำโมโรมิ (Moromi) สาเกญี่ปุ่นจะไม่ใช้น้ำประปาแต่จะใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติและต้องเลือกแหล่งน้ำที่บริสุทธิ์ มีส่วนประกอบของแร่ธาตุที่เหมาะสม โดยแหล่งน้ำและแหล่งผลิตสาเกที่เป็นที่นิยมที่สุดในประเทศญี่ปุ่นคือเมืองเฮียวโงะ (Hyogo Prefecture) 3. กระบวนการหมักบ่มสาเก ขึ้นชื่อว่าญี่ปุ่นแล้วความพิถีพิถันต้องเป็นที่หนึ่ง ตลอดกระบวนการหมักสาเกมีขั้นตอนค่อนข้างละเอียดและปราณีต กระบวนการทำสาเกจะเรียกว่าเป็น Multiple parallel fermentation ("並行複発酵") คือ ใช้เอนไซม์จากหัวเชื้อโคจิ (Koji Mold) ย่อยสลายแป้งจากข้าวให้เป็นน้ำตาล และย่อยโปรตีนให้เป็นเป็ปไทด์กับกรดอะมิโน หลังจากนั้นจะมีการเติมยีสต์เพื่อเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นแอลกอฮอล์อย่างช้าๆ โดยในกระบวนการนี้อาจมีการเติมแอลกอฮอล์สังเคราะห์เพื่อลดระยะเวลาในการหมักบ่มสาเก ซึ่งสาเกที่ไม่เติมแอลกอฮอล์สังเคราะห์เพิ่มจะถูกเรียกว่าสาเกจุนไม (Junmai Sake) ตัวอย่างสาเก เช่น Ozeki Junmai Yamada Nishiki, Ozeki Junmai One Cup Nigori, Ozeki Daiginjo Chobei และ Hana Awaka Sparkling สาเกหากยังไม่ได้ผ่านการกรองจะมีความขุ่นเรียกว่า นิโกริ สาเก (Nigori Sake) ตัวอย่างสาเก เช่น Ozeki Junmai One Cup Nigori และขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการคือการพาสเจอไรซ์สาเก เพื่อให้สาเกมีอายุในการจัดเก็บยาวนานขึ้น โดยทั่วไปจะมีการพาสเจอร์ไรซ์อย่างน้อย 2 ครั้งแต่จะมีสาเกที่ใช้เทคนิคการพาสเจอร์ไรซ์เพียงครั้งเดียวเพื่อรักษาความสดใหม่ของรสชาติสาเก สาเกประเภทนี้เรียกว่า สาเกสด (Nama Sake หรือ Draft Sake) ตัวอย่าง เช่น Ozeki Nama Chozo, Ozeki Nama Karatamba, Nihonsakari Ginjo Nama สาเกแพงมั้ย ราคาเท่าไหร่ ความแพงหรือราคาสาเกขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่กล่าวไว้ข้างต้น ตั้งแต่พันธุ์ข้าว และ%การขัดสีข้าวที่ใช้จำแนกเกรดและประเภทขอสาเก ตลอดจนกระบวนการหมักและเทคนิคพิเศษต่างๆที่ทำให้สาเกแต่ละตัวมีความแตกต่างกัน นอกจากนี้ขนาดบรรจุยังเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญต่อราคาสาเก โดยในประเทศไทยราคาสาเกญี่ปุ่นเริ่มที่ราคาร้อยต้นๆในขนาด 180 ml. และ 300 ml. และอาจมีราคาสูงกว่า 3พันบาทสำหรับสาเกเกรดพรีเมียมขนาด 720 ml. และ 1.8 L.